วิกฤต Covid-19 ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนในทุกภาคส่วนไปมากทีเดียว นั่นทำให้ทุกคนต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เกิดเป็น “New Normal” หรือความปกติในรูปแบบใหม่ ที่พฤติกรรมของคนได้เปลี่ยนไปจนเริ่มเป็นความเคยชิน
วันนี้เราจะมาดูกันว่า New Normal ของคนไทยที่เกิดขึ้นเพราะวิกฤต Covid-19 มีอะไรบ้าง โดยเราจะเน้นไปที่ 3 ด้านหลักๆ คือ ด้านธุรกิจ ด้านเทคโนโลยี และด้านการบริโภค ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัดในช่วงวิกฤตและคาดว่าจะมีผลต่อไปในอนาคต
New Normal ด้านธุรกิจ
หลายธุรกิจเพิ่มช่องทางขายและติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือร้านค้าต่างๆ รวมถึงธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจดนตรีได้ทำ live music ให้ผู้ฟังได้รับชมจากบ้านแทนการมารวมตัวกัน หรือธุรกิจการศึกษาที่มีการสอนแบบ e-Learning แทน
ธุรกิจที่สามารถกลับมาให้บริการแบบออฟไลน์ได้จะมีมาตรการในการให้บริการผู้บริโภคเคร่งครัดขึ้น เช่น การรักษาระยะห่างในพื้นที่ส่วนรวม การจำกัดผู้มาใช้บริการในแต่ละครั้ง เป็นต้น
ธุรกิจด้านโลจิสติกส์หรือการขนส่งมีผู้ใช้บริการมากขึ้นจากการซื้อขายออนไลน์ จนต้องมีการปรับโครงสร้างและวางแผนกลยุทธ์ใหม่เพื่อรองรับผู้ใช้บริการจำนวนมาก
New Normal ด้านเทคโนโลยี
เมื่อทุกภาคส่วนหันมาใช้ช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้เครื่องมือด้านเทคโนโลยีเป็นที่ต้องการมาก ทั้งอุปกรณ์ในการสื่อสารอย่างคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊ก รวมถึงอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง
เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้คนมากขึ้น ที่เห็นได้ชัดก็คือ ระบบหรือโปรแกรม video call เพื่อประชุมกันหลายๆ คนสำหรับการทำงานแบบ Work from home อย่างเช่น Zoom, Skype, FaceTime หรือ Google Meet
มีการนำเทคโนโลยีมาตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบไร้สัมผัส หรือ Touchless เช่น ระบบสแกนการจดจำใบหน้า (Face Recognition) หรือระบบการสั่งการด้วยเสียง (Voice Command) สำหรับใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ลิฟท์ หรือประตูทางเข้าอาคารต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยด้านสุขภาพในการใช้งาน
New Normal ด้านการบริโภค
การที่มีมาตรการให้ร้านอาหารปิดส่วนรับประทานอาหารสำหรับลูกค้า ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้วิธีสั่งอาหารออนไลน์และส่งแบบเดลิเวอรี่แทน
ร้านอาหารต่างๆ ต้องจัดโปรโมชั่นเพื่อให้คนรู้จักร้านในการขายออนไลน์มากขึ้น รวมถึงเป็นการดึงดูดลูกค้าให้ซื้อในสถานการณ์ที่ร้านอาจจะเริ่มขายไม่ได้ หรือเพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้บริโภคที่อาจจะมีรายได้ลดลงด้วย
บรรจุภัณฑ์ในการบรรจุอาหารมีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่มักจะมีแต่บรรจุภัณฑ์จำพวกพลาสติกและโฟม แต่ด้วยจำนวนผู้บริโภคที่สั่งอาหารแบบ Pickup, Take away หรือ Delivery มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้ร้านอาหารต้องคำนึงถึงเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสร้างขยะได้น้อยที่สุดด้วย
นี่ก็เป็น New Normal ที่เราคงเริ่มจะคุ้นชินกันแล้วตั้งแต่เกิดวิกฤต Covid-19 แต่ก็ไม่ใช่ว่า New Normal ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นถาวรไปจนถึงอนาคต ทว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในภายภาคหน้าในเรื่องความเหมาะสมว่าจะยังมีความจำเป็นหรือเป็นผลดีอยู่หรือไม่ ก็ต้องรอดูกันต่อไปนะ :)